การนำเสนอคุณค่าและคุณสมบัติที่แท้จริงเกี่ยวกับสินค้าและบริการในปัจจุบัน

เคล็ดลับการดูแลตัวเอง ให้สุขภาพดีออกแบบได้ ตามช่วงวัยสาว 20 30 40

เคล็ดลับการดูแลตัวเองที่สาววัย 20 30 40 ควรรู้ เพราะแต่ละช่วงวัยต้องการการบำรุงที่ไม่เหมือนกัน ผู้หญิงอย่าหยุดสวย แม้กาลเวลาจะทำให้อายุค่อย ๆ กระเถิบขึ้นไปเรื่อย ๆ แต่เราก็อย่ายอมให้ผิวพรรณและร่างกายเสื่อมโทรมไปตามวัยเชียว เพราะฉะนั้นเราควรต้องรู้เลยว่า วัยของเราควรบำรุงร่างกายแบบไหนให้มากเป็นพิเศษ เพื่อจะได้มีสุขภาพดีตลอดไป คำแนะนำดี ๆ มาบอกกันด้วยว่า สุขภาพดีออกแบบได้

สำหรับสุขภาพที่เราโปรยหัวไว้ ไม่ได้จำกัดความอยู่แค่สุขภาพกายเท่านั้น แต่หมายรวมไปถึงสุขภาพผิวด้วย เพราะกินผิดกินพลาด สิ่งเหล่านี้ก็ไปฟ้องอยู่บนใบหน้าได้ ทางที่ดีลุกขึ้นมาปฏิวัติตัวเอง ใส่ใจเรื่องการกินให้มากขึ้นกว่าเดิม ควบคู่ไปกับปรนนิบัติผิวอย่างถูกวิธี แบบนี้สิเริดกว่าเห็น ๆ สาว ๆ คนไหนเริ่มก่อน มีสิทธิ์สวยใสสุขภาพดีก่อนใคร

ดูแลเรื่องผิวไปแล้ว มาดูแลเรื่องรูปร่างกันบ้าง
ถ้าผิวหน้าสวย แต่ปล่อยร่างกายให้เผละ คงไม่ไหว แต่ควรกินอย่างไรถึงจะเหมาะสม แนะนำให้ดูที่วัยก่อนเป็นอันดับแรก

20 ปีขึ้นไป
ในช่วงวัยนี้เป็นช่วงที่ร่างกายมีการพัฒนาและเติบโตอย่างเต็มที่ เรียน ทำงาน หรือทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ยิ่งถ้าใครมีการเคลื่อนไหวมาก ๆ ร่างกายก็ยิ่งเผาผลาญและใช้พลังงานมากขึ้น อาหารที่ควรรับประทานในช่วงวัยนี้ ข้าวและแป้งมาเป็นอันดับหนึ่ง ตามด้วยผักและผลไม้ นม และอาหารที่ช่วยเสริมแคลเซียมต่าง ๆ เช่น เต้าหู้ ปลาเล็กปลาน้อย โดยให้ความสำคัญกับไขมันเป็นลำดับสุดท้าย

เมนูนี้ที่ห้ามพลาดเลยคือ ปลา อาหารที่ช่วยรักษาผนังเซลล์ประสาทในสมองให้แข็งแรง ไม่หลงลืมอะไรง่าย ๆ ผักใบเขียวอย่างผักบุ้ง ผักกระเฉด ผักคะน้า ถั่วฝักยาว ช่วยบำรุงสายตา สร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง และกล้วยหอม กินผลไม้ชนิดนี้ไปช่วยคลายเครียดจากการเรียนได้

30 ปีขึ้นไป
อยากให้หน้าเด็กทั้งที่วัยขึ้นเลข 3 ควรระมัดระวังเรื่องของไขมันและคอเลสเตอรอล เพราะสองสิ่งนี้ส่งผลโดยตรงกับรูปร่างหน้าตาภายนอกของเรา นอกจากนี้ ยังส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายในอนาคตด้วย จากที่ชอบกินหมูสามชั้น เนยแข็ง กะทิ หรือเนยเทียม ที่ก่อให้เกิดโรคหลอดเลือดและโรคหัวใจ ควรเปลี่ยนใหม่มารับประทานปลาทะเลที่ช่วยลดความดันโลหิต

ถั่วเมล็ดแห้งอย่างถั่วแดง ถั่วเขียว ถั่วเหลือง ช่วยลดความเสี่ยงจากโรคหัวใจ อาหารจำพวกถั่วนอกจากจะมีโปรตีนสูงสามารถกินแทนเนื้อสัตว์ได้แล้ว ยังให้พลังงานได้เป็นอย่างดีอีกด้วย และที่ขาดไม่ได้ ควรกินข้าวไม่ขัดสี และขนมปังโฮลวีตที่มีกากใยอาหารสูง ช่วยให้อิ่มท้องนาน และส่งผลดีต่อระบบลำไส้

40 ปีขึ้นไป
มันเป็นความจริงอันน่าเจ็บปวดที่วัยนี้มีอีกชื่อว่าวัยทอง เนื่องจากสภาพร่างกายเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะผู้หญิง และเริ่มมีโรคต่าง ๆ ที่ไม่เคยออกอาการมาก่อนเกิดขึ้น การชะลอวัย หรือป้องกันโรคต่าง ๆ จึงเป็นสิ่งสำคัญ

ในช่วงวัยนี้ ความต้องการพลังงานเริ่มลดลง ขณะที่ความต้องการแคลเซียม (แนะนำเต้าหู้ โปรตีนและแคลเซียมสูง ไขมันต่ำ) และวิตามินต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้น จึงควรกินผักและผลไม้ที่มีกากใยอาหารสูง กินวิตามินซีเพื่อให้มีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น ส้ม ฝรั่ง มะเขือเทศ และแคนตาลูป และวิตามินอี ได้แก่ น้ำมันพืช เนยถั่ว ถั่วลิสง ถั่วอัลมอนด์ พยายามหลีกเลี่ยงอาหารที่เป็นตัวเร่งความแก่ เช่น อาหารไขมันสูง ประเภททอดกรอบ หรือผัดน้ำมันมาก ๆ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และเครื่องดื่มคาเฟอีนทั้งหลาย

ควบคุมอาหารสำคัญที่สุด
ลดปริมาณอาหารในแต่ละมื้อให้น้อยลง นอกจากฝึกกระเพาะอาหารให้มีปริมาตรลดลงแล้ว ยังช่วยลดการสร้างน้ำย่อยซึ่งกระตุ้นให้อยากอาหารน้อยลงอีกด้วย และเวลาเคี้ยวอาหารควรเคี้ยวให้ช้าไว้ก่อน การเคี้ยวช้าจะช่วยให้ระบบย่อยทำงานน้อยลง ทำให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารได้มากขึ้น ลดภาระการทำงานของสมอง การทำงานของกระเพาะ ทำให้ทางเดินอาหารมีเวลาส่งสัญญาณไปที่สมองให้รู้สึกอิ่มและกินอาหารได้น้อยลง หากทำต่อเนื่อง 2 สัปดาห์ ร่างกายจะรู้สึกชินกับการกินน้อย ๆ ไปเอง ส่งผลให้น้ำหนักลดลงได้ถึง 3 กิโลกรัมต่อเดือนโดยไม่ต้องอดให้ทรมาน

งดอาหารที่มีปริมาณแคลอรีสูง สำหรับปริมาณแคลอรีของอาหารที่เราควรรับประทานในแต่ละวัน ผู้หญิงอยู่ที่ 1,600 แคลอรี ผู้ชายอยู่ที่ 2,000 แคลอรี ถ้าเราลดปริมาณอาหารสำเร็จแล้ว แต่ยังกินอาหารที่มีพลังงานมากเกินกว่าที่ร่างกายต้องการ เช่น ของทอด ทำให้น้ำหนักพุ่งขึ้นได้เช่นกัน

ยกตัวอย่างง่าย ๆ ถ้าเรากินอาหารที่ให้พลังงานส่วนเกินสูง 7,000 กิโลแคลอรี ก็จะทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นถึง 1 กิโลกรัมเลยทีเดียว ในทางกลับกัน ถ้าเราเลี่ยงอาหารแคลอรีสูง แล้วเลือกกินแต่ผักและน้ำเปล่าที่ให้พลังงานน้อยหรือไม่ให้พลังงานเลยก็ส่งผลเสียได้เช่นกัน เพราะกระเพาะอาหารปรับตัว สร้างน้ำย่อยตามออกมามากขึ้น ทำให้โหยได้ง่าย